การรักษาความสะอาดในระบบเครื่องล้างอุโมงค์ต้องอาศัยปัจจัยหลายประการ เช่น คุณภาพของน้ำ อุณหภูมิ ผงซักฟอก และกลไกการทำงาน โดยเวลาในการซักถือเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุประสิทธิภาพการซักที่ต้องการ บทความนี้จะเจาะลึกถึงวิธีการรักษาเวลาซักให้เหมาะสมที่สุดพร้อมทั้งรับประกันปริมาณงานซักต่อชั่วโมง โดยเน้นที่การจัดวางช่องซักหลัก
อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการซักอย่างมีประสิทธิภาพ
อุณหภูมิการซักหลักที่เหมาะสมคือ 75°C (หรือ 80°C) ช่วงอุณหภูมินี้ช่วยให้ผงซักฟอกทำงานได้อย่างเหมาะสม โดยสลายและขจัดคราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การปรับสมดุลเวลาซักเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ระยะเวลาการซักหลักคือ 15–16 นาที ถือว่าดีที่สุด ในช่วงเวลาดังกล่าว ผงซักฟอกจะมีเวลาเพียงพอที่จะแยกคราบออกจากผ้าปูที่นอน หากใช้เวลาซักสั้นเกินไป ผงซักฟอกก็จะไม่มีเวลาเพียงพอในการทำงาน และหากใช้เวลานานเกินไป คราบที่แยกออกอาจติดผ้าปูที่นอนอีกครั้ง
ตัวอย่างการจัดวางช่อง-ทำความเข้าใจผลกระทบของช่องต่อเวลาในการซัก
สำหรับเครื่องล้างอุโมงค์ที่มีช่องล้างหลัก 6 ช่อง โดยแต่ละช่องมีเวลาล้าง 2 นาที เวลาในการล้างหลักทั้งหมดคือ 12 นาที เมื่อเปรียบเทียบแล้ว เครื่องล้างอุโมงค์ที่มี 8 ช่องมีเวลาล้างหลัก 16 นาที ซึ่งถือว่าเหมาะสม
ความสำคัญของเวลาการซักที่เพียงพอ
การละลายผงซักฟอกต้องใช้เวลา และการซักหลักที่ใช้เวลาน้อยกว่า 15 นาทีอาจส่งผลเสียต่อความสะอาดได้ กระบวนการอื่นๆ เช่น การรับน้ำ การให้ความร้อน การถ่ายเทน้ำในช่อง และการระบายน้ำก็ใช้เวลาซักหลักไปส่วนหนึ่ง ดังนั้นการมีเวลาซักที่เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ประสิทธิภาพในการซักผ้าปูที่นอนของโรงแรม
สำหรับเครื่องซักผ้าปูที่นอนในโรงแรม จำเป็นต้องใช้เวลาซัก 2 นาทีต่อชุด โดยซักผ้าได้ 30 ชุดต่อชั่วโมง (ประมาณ 1.8 ตัน) เวลาในการซักหลักควรไม่น้อยกว่า 15 นาที เพื่อให้แน่ใจว่าผ้าจะซักได้คุณภาพ
คำแนะนำเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่เหมาะสมที่สุด
จากการพิจารณาดังกล่าว แนะนำให้ใช้เครื่องล้างแบบอุโมงค์ที่มีช่องล้างหลักอย่างน้อย 8 ช่อง เพื่อรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพการซักให้สูง
บทสรุป
การรับประกันความสะอาดของผ้าปูที่นอนในระบบเครื่องซักแบบอุโมงค์ต้องใช้แนวทางที่สมดุลระหว่างเวลาซักและการจัดวางช่องซัก การยึดเวลาซักที่เหมาะสมและจัดให้มีช่องซักหลักเพียงพอจะช่วยให้ธุรกิจสามารถบรรลุมาตรฐานความสะอาดสูงและผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ
เวลาโพสต์ : 24 ก.ค. 2567