• แบนเนอร์หัวเรื่อง_01

ข่าว

วิธีการประเมินประสิทธิภาพการใช้พลังงานในระบบเครื่องล้างอุโมงค์

ในการเลือกและซื้อระบบเครื่องล้างอุโมงค์ สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าระบบนั้นประหยัดน้ำและไอน้ำ เนื่องจากมีผลต่อต้นทุนและกำไร และมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินงานที่ดีและเป็นระเบียบเรียบร้อยของโรงงานซักรีด

แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่าระบบล้างอุโมงค์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานหรือไม่?

อัตราการใช้น้ำของเครื่องซักอุโมงค์ซักผ้าหนึ่งกิโลกรัม

เครื่องซักผ้าแบบอุโมงค์ CLM โดดเด่นในเรื่องนี้ ระบบชั่งน้ำหนักอัจฉริยะสามารถปรับการใช้น้ำและผงซักฟอกตามน้ำหนักของผ้าที่บรรจุได้โดยอัตโนมัติ ใช้การออกแบบการกรองน้ำหมุนเวียนและการออกแบบการล้างแบบทวนกระแสสองห้อง ผ่านวาล์วควบคุมที่ตั้งไว้ในท่อภายนอกห้อง เฉพาะน้ำล้างที่สกปรกที่สุดเท่านั้นที่จะถูกระบายออกในแต่ละครั้ง ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้น้ำขั้นต่ำต่อผ้าหนึ่งกิโลกรัมคือ 5.5 กิโลกรัม ในเวลาเดียวกัน การออกแบบท่อน้ำร้อนสามารถเติมน้ำร้อนโดยตรงสำหรับการซักหลักและการซักแบบเป็นกลาง ลดการใช้ไอน้ำ และการออกแบบฉนวนเพิ่มเติมช่วยลดการสูญเสียอุณหภูมิ จึงลดการใช้ไอน้ำ

อัตราการคายน้ำของเครื่องสกัดน้ำ

อัตราการคายน้ำของเครื่องรีดน้ำส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและการใช้พลังงานของเครื่องอบผ้าและเครื่องรีดผ้ารุ่นต่อๆ ไป เครื่องรีดน้ำสำหรับงานหนักรุ่น CLM ทำงานได้ดีมาก หากตั้งค่าแรงดันผ้าขนหนูจากโรงงานไว้ที่ 47 บาร์ อัตราการคายน้ำของผ้าขนหนูจะสูงถึง 50% และอัตราการคายน้ำของผ้าปูที่นอนและผ้าห่มจะสูงถึง 60%-65%

ประสิทธิภาพและการใช้พลังงานของเครื่องอบผ้า

เครื่องอบผ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานมากที่สุดในโรงงานซักรีด เครื่องอบผ้าแบบเผาตรง CLM มีข้อดีที่ชัดเจน เครื่องอบผ้าแบบเผาตรง CLM ใช้เวลาเพียง 18 นาทีในการอบผ้าขนหนู 120 กก. และใช้ก๊าซเพียงประมาณ 7 ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

เมื่อแรงดันไอน้ำอยู่ที่ 6 กก. เครื่องอบผ้าที่ใช้ความร้อนด้วยไอน้ำ CLM จะใช้เวลา 22 นาทีในการอบผ้าขนหนู 120 กก. แห้ง และการใช้ไอน้ำมีเพียง 100-140 กก. เท่านั้น

โดยรวมแล้ว ระบบล้างอุโมงค์ประกอบด้วยเครื่องจักรหลายเครื่องที่ทำงานแยกกันและส่งผลต่อกันและกัน การออกแบบอุปกรณ์แต่ละเครื่องให้ประหยัดพลังงานอย่างเหมาะสม เช่น CLM เท่านั้นที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายการประหยัดพลังงานได้อย่างแท้จริง


เวลาโพสต์: 09-9-2024